มีคนนึงเคยบอกกับผมเมื่อเค้าคิดว่า
ผมกำลังตัดสินใจอะไรสักอย่างที่ผิดไปว่า
"การตัดสินใจของผมมันเหมือนกับการติดกระดุมเม็ดแรก
ถ้าติดผิด มันก็ผิดทั้งหมดนั้นแหละ"
ในตอนนั้นผมแทบไม่ได้ใส่ใจหรือแม้จาเก็บมาคิด
กับคำพูด ความคิดเห็นของเค้าคนนั้นเลย
เพราะนอกจากเค้าจะไม่มีความสำคัญกับชีวิตผมแล้ว
ผมกลับรู้สึกมันเป็นความท้าทายให้ผมยิ่งอยากทำแบบที่เค้าคิดว่า
ผมจะตัดสินใจผิด ผมก็อยากรู้ว่าผลที่เค้าว่ามันจะผิดทั้งหมดนั้น
มันจะเป็นยังไง
วันนี้ผลของการติดกระดุมเม็ดแรกของผม
มันยังสดใสและผมไม่เคยคิดว่าวันนั้นกระดุมเม็ดแรกที่ผมติดผิด
มันจะทำให้ผม ทุกร้อน อาย หรือหงุดหงิดใจแต่อย่างใด
ผมก็มีความสุขกับการติดกระดุมเหยๆ เกๆ แบบนั้นเรื่อยมา
ผมแอบอมยิ้มทุกครั้งที่มีคนสักเกตุเห็นว่าผมติดกระดุมผิด
ถ้ามีคนทักผมว่าติดกระดุมผิดผมยิ่งปล่อยเสียหัวเราะชอบใจ
แล้วตอบกลับไปว่า ไม่ได้ติดผิดหรอก ผมตั้งใจ
ผลที่ตามมาก็ไม่เห็นมีใครมาใส่ใจกับกระดุมผมอีกเพราะมันก็ไม่ได้
ไปทำให้เค้าหรือใครๆเดือดร้อนเรื่องใดๆเลยนี้นา
แต่ความคิดอีดอย่างของผมที่อยากบอกเค้าคนนั้นว่า
หากว่าการติดกระดุมเม็ดแรกของผม
มันผิดและมีผลที่ไม่ดีกับชีวิตผม
ผมก็จาแค่ติดมันใหม่ให้ถูก " ก็แค่นั้น "มันไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็นที่จะแก้ไขสักหน่อย
ประสาท......................
วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
รถติด......ยังไง
ผมขับรถมุ่งหน้าพระรามเจ็ด ก่อนขึ้นสะพานข้ามแยกวงสว่าง
รถติดมาก..........จากไปได้เรื่อยๆๆค่อยไหลกลายเป็นติดซะงั้น
มองรถฝั่งตรงข้ามโล่งแทบไม่มีรถ แต่ก็แค่ งงๆ
มันเป็นการเดินทางวันธรรมดาช่วงบ่ายโมงซึ่งรถไม่น่าจะติดมากขนาดนี้
ผมเดาว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นข้างหน้าแน่ๆจึงทำให้รถติด
กระดึบกระดึบมาเรื่อยๆ คำตอบอยู่ไม่ไกลเกินไปนัก
ผมพอจะเห็นใกล้เข้ามาแล้ว
ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นข้างหน้า ขวางการจราจรฝั่งตรงข้าม
ทำให้ไม่มีรถเลยผ่านไปได้เลย
ส่วนช่องทางเดินรถฝั่งผมอ่ะพอผ่านจุดเกิดอุบัติเหตุไปได้เท่านั้นแหละ
โล่งงง.........................วิ่งฉิว
แล้วมันเพราะอะไร ช่องทางฝั่งนี้มันไปเกี่ยวอะไรกับเค้าด้วยฟระ
คิดได้แค่คำที่เปรียบได้กับไทยมุง อยากรู้อยากเห้น
ชลอรถดูกันซะงั้น ชะลอกันเข้าไป
ตอนแรกรีบมาจากไหนพอเจออุบัติเหตุเข้าไป ไอ้ที่ว่ารีบๆอ่ะ
เจอเรื่องนี้เข้าไปลืมไปเลยว่าตะกี้กรูรีบอยู่
คนเรานี้ก็แปลกเนอะ...................
รถติดมาก..........จากไปได้เรื่อยๆๆค่อยไหลกลายเป็นติดซะงั้น
มองรถฝั่งตรงข้ามโล่งแทบไม่มีรถ แต่ก็แค่ งงๆ
มันเป็นการเดินทางวันธรรมดาช่วงบ่ายโมงซึ่งรถไม่น่าจะติดมากขนาดนี้
ผมเดาว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นข้างหน้าแน่ๆจึงทำให้รถติด
กระดึบกระดึบมาเรื่อยๆ คำตอบอยู่ไม่ไกลเกินไปนัก
ผมพอจะเห็นใกล้เข้ามาแล้ว
ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นข้างหน้า ขวางการจราจรฝั่งตรงข้าม
ทำให้ไม่มีรถเลยผ่านไปได้เลย
ส่วนช่องทางเดินรถฝั่งผมอ่ะพอผ่านจุดเกิดอุบัติเหตุไปได้เท่านั้นแหละ
โล่งงง.........................วิ่งฉิว
แล้วมันเพราะอะไร ช่องทางฝั่งนี้มันไปเกี่ยวอะไรกับเค้าด้วยฟระ
คิดได้แค่คำที่เปรียบได้กับไทยมุง อยากรู้อยากเห้น
ชลอรถดูกันซะงั้น ชะลอกันเข้าไป
ตอนแรกรีบมาจากไหนพอเจออุบัติเหตุเข้าไป ไอ้ที่ว่ารีบๆอ่ะ
เจอเรื่องนี้เข้าไปลืมไปเลยว่าตะกี้กรูรีบอยู่
คนเรานี้ก็แปลกเนอะ...................
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
โอกาสข้างถนน
คุณเคยขับรถไปติดสี่แยกมั๊ย
ที่ไหนที่นั้นไม่มีคนขายพวงมาลัยก็มีคนพิการรึไม่พิการเลย
มาข้อสิ่งที่เค้าเรียกให้มันดูด้อยค่าว่าเศษสตางค์
วันนี้ผมรถมาติดอยู่แยกเกษตร
มีผู้หญิงพิการที่ขาตั้งแต่ช่วงเข่าลงไปข้างหนึ่งไม่มี
ผมทำเหมือนทุกทีเมื่อเค้ามายืนทำสายตาวิงวอน
ขอเศษสตางค์ซึ่งคนอื่นๆอาจจะคิดว่าไม่มีค่าสักเท่าไหร่ แต่สำหรับผม....ไม่
ท่าทีของผมคือไม่หันไปแม้แต่จะมองเพราะอดที่จะสงสารไม่ได้
พอเค้าเดินจากรถผมไปผมมีคำถามในใจ(ผมว่าคุณก็อาจจะเคยอยากรู้เหมือนผม)
ว่าขาเข้าขาดไปแค่ข้างเดียว ทำไมมือทั้งสองข้างและขาที่มีไม้เท้าค้ำยัน
ไปไหนมาไหนได้ไม่พาเค้าไปหางานการที่พอทำได้ทำ
เสียดีกว่ามาเดินขอเศษสตางค์ เค้าไม่อายหรือกับสายต่อรึท่าทีของคนอื่นๆ
ผมไม่คิดเปล่า เอ่ยถามแฟนผมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆออกไป
เธอคิดคลายกับผมในเรื่องที่ว่าพิการแค่นี้เค้ายังมีทางทำมาหากินได้
แต่ทำไม เค้าไม่ทำ เพราะเราก็เคยเห็นคนพิการหาเลี้ยงตัวเองบางคนหาเลี้ยงครอบครัวด้วยซ้ำไป
มีอีกความคิดเห็นนึงที่แฟนผมเอ่ยออกมาแล้วทำให้ผมคิดต่อไปอีก
โอกาสไง เราก็ไม่มีทางไปรู้กับเค้าหรอกว่าเค้าอาจจะพยายามแล้วทุกทาง
บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้มีทางและโอกาสหยิบยื่นมาให้เค้ามากนัก
เค้าคงมีเหตุผลและยอมรับได้ในสิ่งที่ตามมาแล้วหละ หากเค้าเลือกที่จะขอทานแบบนี้
"อ๊อย..........อย่าไปยุ่งกะเค้าเลย ไฟเขียวแล้ว ออกรถดิ ไอ้ปุ้ย....."
จบการสนทนาด้วยเสียงโวยวายของแฟนผม
ที่ไหนที่นั้นไม่มีคนขายพวงมาลัยก็มีคนพิการรึไม่พิการเลย
มาข้อสิ่งที่เค้าเรียกให้มันดูด้อยค่าว่าเศษสตางค์
วันนี้ผมรถมาติดอยู่แยกเกษตร
มีผู้หญิงพิการที่ขาตั้งแต่ช่วงเข่าลงไปข้างหนึ่งไม่มี
ผมทำเหมือนทุกทีเมื่อเค้ามายืนทำสายตาวิงวอน
ขอเศษสตางค์ซึ่งคนอื่นๆอาจจะคิดว่าไม่มีค่าสักเท่าไหร่ แต่สำหรับผม....ไม่
ท่าทีของผมคือไม่หันไปแม้แต่จะมองเพราะอดที่จะสงสารไม่ได้
พอเค้าเดินจากรถผมไปผมมีคำถามในใจ(ผมว่าคุณก็อาจจะเคยอยากรู้เหมือนผม)
ว่าขาเข้าขาดไปแค่ข้างเดียว ทำไมมือทั้งสองข้างและขาที่มีไม้เท้าค้ำยัน
ไปไหนมาไหนได้ไม่พาเค้าไปหางานการที่พอทำได้ทำ
เสียดีกว่ามาเดินขอเศษสตางค์ เค้าไม่อายหรือกับสายต่อรึท่าทีของคนอื่นๆ
ผมไม่คิดเปล่า เอ่ยถามแฟนผมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆออกไป
เธอคิดคลายกับผมในเรื่องที่ว่าพิการแค่นี้เค้ายังมีทางทำมาหากินได้
แต่ทำไม เค้าไม่ทำ เพราะเราก็เคยเห็นคนพิการหาเลี้ยงตัวเองบางคนหาเลี้ยงครอบครัวด้วยซ้ำไป
มีอีกความคิดเห็นนึงที่แฟนผมเอ่ยออกมาแล้วทำให้ผมคิดต่อไปอีก
โอกาสไง เราก็ไม่มีทางไปรู้กับเค้าหรอกว่าเค้าอาจจะพยายามแล้วทุกทาง
บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้มีทางและโอกาสหยิบยื่นมาให้เค้ามากนัก
เค้าคงมีเหตุผลและยอมรับได้ในสิ่งที่ตามมาแล้วหละ หากเค้าเลือกที่จะขอทานแบบนี้
"อ๊อย..........อย่าไปยุ่งกะเค้าเลย ไฟเขียวแล้ว ออกรถดิ ไอ้ปุ้ย....."
จบการสนทนาด้วยเสียงโวยวายของแฟนผม
วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ความพร้อมในแบบของผม
ตอนนี้ผมกะลังจาเป็นพ่อคน
มีคนชอบถามผมว่า แล้วผมพร้อมแล้วหรือ
ผมไม่เคยตอบออกไป แต่ผมมีคำตอบอยู่ในใจ
และอยากย้อนถามคนถามกลับไปว่าแล้วถ้าผมถามกลับในเหตุการณ์เดียวกัน
ถ้าเกิดขึ้นกับคุณ คุณพร้อมมั๊ยแล้วความพร้อมของคุณคืออะไร อยู่ตรงไหน
.........................?
เงิน หน้าที่การงาน วุฒิภาวะ ความเป็นผู้นำ
ผมต้องเรียนจบก่อน มีงานทำถึงจามีเงินถึงจะพร้อมที่จะมีลูกหรือเปล่า
แต่มีคนคนนึงพูดกับผมและทำให้ผมรู้สึกว่า
วันนี้ก่อนที่ผมจะตัดสินใจมีลูกด้วยความตั้งใจของผม
ผมพร้อมแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าผมจะเป็นพ่อที่ดีรึป่าว
แต่ความพร้อมของผมอยู่ที่ผมพร้อมที่จะทำให้ลุกผมมีความสุข
ไม่ว่าผมต้องเหนื่อยขึ้นลำบาคขึ้น แต่ผมจะทำให้ได้และมั่ใจว่าทำได้
นี้แหละที่ผมรู้สึกว่า ผมพร้อมแล้วววววววววววววคร้าบ
มีคนชอบถามผมว่า แล้วผมพร้อมแล้วหรือ
ผมไม่เคยตอบออกไป แต่ผมมีคำตอบอยู่ในใจ
และอยากย้อนถามคนถามกลับไปว่าแล้วถ้าผมถามกลับในเหตุการณ์เดียวกัน
ถ้าเกิดขึ้นกับคุณ คุณพร้อมมั๊ยแล้วความพร้อมของคุณคืออะไร อยู่ตรงไหน
.........................?
เงิน หน้าที่การงาน วุฒิภาวะ ความเป็นผู้นำ
ผมต้องเรียนจบก่อน มีงานทำถึงจามีเงินถึงจะพร้อมที่จะมีลูกหรือเปล่า
แต่มีคนคนนึงพูดกับผมและทำให้ผมรู้สึกว่า
วันนี้ก่อนที่ผมจะตัดสินใจมีลูกด้วยความตั้งใจของผม
ผมพร้อมแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าผมจะเป็นพ่อที่ดีรึป่าว
แต่ความพร้อมของผมอยู่ที่ผมพร้อมที่จะทำให้ลุกผมมีความสุข
ไม่ว่าผมต้องเหนื่อยขึ้นลำบาคขึ้น แต่ผมจะทำให้ได้และมั่ใจว่าทำได้
นี้แหละที่ผมรู้สึกว่า ผมพร้อมแล้วววววววววววววคร้าบ
วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
หิวข้าว
หิวหิวหิว เวลาเราหิวสิ่งที่เราจะทำต่อไปคืออะไร?
กิน กิน กิน เข้าไปเพื่อที่ท้องจะได้อิ่มและเลิกร้องบอกร่างกายว่าหิว
ความหิวมันมีอานุภาพร้ายแรงกว่าที่คิดนะคร้าบบบบบบบบบ
เคยได้ยินเรื่องกล้องข้าวน้อยฆ่าแม่มั๊ยอ่ะ มันสะเทือนใจนะแค่ความหิวเท่านั้น
แต่ผมคิดถึงเรื่องใกล้ตัวมากกว่า อาหารกลางวันในโรงอาหารมหาวิทยาลัย
การแย่งชิงจานนั้น คิวของผมรึคิวของใคร
แค่ความหิว เธอสามารถเอาความน่ารักและหน้าด้านแลกกับข้าวหนึ่งจานที่จะได้อิ่มก่อนผมแค่ไม่กี่นาที
แต่พออิ่มทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติ สติกลับคืนมา
เธอจะอายหรือสำนึกบ้างมั๊ยถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งตัดหน้าแย่งผมซื้อข้าวไป
ความหน้ารักของเธอในสายตาผมไม่เหลืออีกแล้ว
ผมตารู้สึกถึงอาการที่ตากับใจและประสาทของผมเพิ่งกลับสู่สภาวะปกติหรืออาจจะดีกว่าปกติ
ดีนะที่วันก่อนผมไม่เดินไปขอเบอร์เธอ อุตส่าห์แอบมองมาหนึ่งเทอม........เสียเวลาชิบหาย
แค่แอบมองยังคิดเสียดายเวลา........
กิน กิน กิน เข้าไปเพื่อที่ท้องจะได้อิ่มและเลิกร้องบอกร่างกายว่าหิว
ความหิวมันมีอานุภาพร้ายแรงกว่าที่คิดนะคร้าบบบบบบบบบ
เคยได้ยินเรื่องกล้องข้าวน้อยฆ่าแม่มั๊ยอ่ะ มันสะเทือนใจนะแค่ความหิวเท่านั้น
แต่ผมคิดถึงเรื่องใกล้ตัวมากกว่า อาหารกลางวันในโรงอาหารมหาวิทยาลัย
การแย่งชิงจานนั้น คิวของผมรึคิวของใคร
แค่ความหิว เธอสามารถเอาความน่ารักและหน้าด้านแลกกับข้าวหนึ่งจานที่จะได้อิ่มก่อนผมแค่ไม่กี่นาที
แต่พออิ่มทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติ สติกลับคืนมา
เธอจะอายหรือสำนึกบ้างมั๊ยถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งตัดหน้าแย่งผมซื้อข้าวไป
ความหน้ารักของเธอในสายตาผมไม่เหลืออีกแล้ว
ผมตารู้สึกถึงอาการที่ตากับใจและประสาทของผมเพิ่งกลับสู่สภาวะปกติหรืออาจจะดีกว่าปกติ
ดีนะที่วันก่อนผมไม่เดินไปขอเบอร์เธอ อุตส่าห์แอบมองมาหนึ่งเทอม........เสียเวลาชิบหาย
แค่แอบมองยังคิดเสียดายเวลา........
เงินซื้อความสุขได้จริง(หรือ)
ผมเคยสงสัยว่าทำไมคนรวยหลายคนจึงมีความทุกข์ในขณะที่คนจนอีกหลายคนมีความสุข
ผมเคยอ่านในหนังสือเล่มหนึ่ง ในหนังสือนั้นได้เปรีบยเทียบประชาชนส่วนใหญ่ของประเทสทิเบตกับประเทศไทยไว้ว่า
ที่ประชาชนทิเบตมีสุขภาพจิตดีกว่าประชาชนบางคนในประเทศไทย
ผมเคยคิดว่าตัวผมเองอยากกลับไปเป็นเด็กเพราะว่า "เด็กเป็นวัยที่มีความสุขมากที่สุข"ยกตัวอย่าง
ในกระเป๋าสตางค์ของผู้ใหญ่ย่อมมีเงินมากกว่าเด็ก สิ่งเหล่านี้ย่อมบอกได้ว่าไม่ได้มีความสุขที่เกิดจากการมีเงินทองเสมอไป
แล้วความสุขที่แท้จริงเกิดจากอะไร
ผมเคยอ่านในหนังสือเล่มหนึ่ง ในหนังสือนั้นได้เปรีบยเทียบประชาชนส่วนใหญ่ของประเทสทิเบตกับประเทศไทยไว้ว่า
ที่ประชาชนทิเบตมีสุขภาพจิตดีกว่าประชาชนบางคนในประเทศไทย
ผมเคยคิดว่าตัวผมเองอยากกลับไปเป็นเด็กเพราะว่า "เด็กเป็นวัยที่มีความสุขมากที่สุข"ยกตัวอย่าง
ในกระเป๋าสตางค์ของผู้ใหญ่ย่อมมีเงินมากกว่าเด็ก สิ่งเหล่านี้ย่อมบอกได้ว่าไม่ได้มีความสุขที่เกิดจากการมีเงินทองเสมอไป
แล้วความสุขที่แท้จริงเกิดจากอะไร
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)