วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

โอกาสข้างถนน

คุณเคยขับรถไปติดสี่แยกมั๊ย
ที่ไหนที่นั้นไม่มีคนขายพวงมาลัยก็มีคนพิการรึไม่พิการเลย
มาข้อสิ่งที่เค้าเรียกให้มันดูด้อยค่าว่าเศษสตางค์

วันนี้ผมรถมาติดอยู่แยกเกษตร
มีผู้หญิงพิการที่ขาตั้งแต่ช่วงเข่าลงไปข้างหนึ่งไม่มี
ผมทำเหมือนทุกทีเมื่อเค้ามายืนทำสายตาวิงวอน
ขอเศษสตางค์ซึ่งคนอื่นๆอาจจะคิดว่าไม่มีค่าสักเท่าไหร่ แต่สำหรับผม....ไม่
ท่าทีของผมคือไม่หันไปแม้แต่จะมองเพราะอดที่จะสงสารไม่ได้
พอเค้าเดินจากรถผมไปผมมีคำถามในใจ(ผมว่าคุณก็อาจจะเคยอยากรู้เหมือนผม)
ว่าขาเข้าขาดไปแค่ข้างเดียว ทำไมมือทั้งสองข้างและขาที่มีไม้เท้าค้ำยัน
ไปไหนมาไหนได้ไม่พาเค้าไปหางานการที่พอทำได้ทำ
เสียดีกว่ามาเดินขอเศษสตางค์ เค้าไม่อายหรือกับสายต่อรึท่าทีของคนอื่นๆ
ผมไม่คิดเปล่า เอ่ยถามแฟนผมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆออกไป
เธอคิดคลายกับผมในเรื่องที่ว่าพิการแค่นี้เค้ายังมีทางทำมาหากินได้
แต่ทำไม เค้าไม่ทำ เพราะเราก็เคยเห็นคนพิการหาเลี้ยงตัวเองบางคนหาเลี้ยงครอบครัวด้วยซ้ำไป
มีอีกความคิดเห็นนึงที่แฟนผมเอ่ยออกมาแล้วทำให้ผมคิดต่อไปอีก
โอกาสไง เราก็ไม่มีทางไปรู้กับเค้าหรอกว่าเค้าอาจจะพยายามแล้วทุกทาง
บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้มีทางและโอกาสหยิบยื่นมาให้เค้ามากนัก
เค้าคงมีเหตุผลและยอมรับได้ในสิ่งที่ตามมาแล้วหละ หากเค้าเลือกที่จะขอทานแบบนี้

"อ๊อย..........อย่าไปยุ่งกะเค้าเลย ไฟเขียวแล้ว ออกรถดิ ไอ้ปุ้ย....."
จบการสนทนาด้วยเสียงโวยวายของแฟนผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น